ความรู้เกี่ยวกับกระจก
การผลิตแผ่นกระจกในปัจจุบัน มากกว่า 90% ผลิตด้วยระบบโฟล้ต (Float Glass Process) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย Sir Alastair Pilkington ชาวอังกฤษ ในปี 1959
โดยการหลอมวัตถุดิบหลักๆ ได้แก่ ทราย (Silica Sand) ยิปซั่ม (Gymsum) โซดาแอช (Soda Ash) และ ไลม์สโตน (Limestone) ที่อุณหภูมิ 1500° C โดยกระจกเหลวจะไหลออกจากเตาหลอมและลอยตัวบนผิวของดีบุกเหลว
|
FLOAT GLASS PROCESS
The term "float" glass derives from the production method, introduced in the UK by Sir Alastair Pilkington in 1959,
by which process 90% of today's flat glass is manufactured.
The raw materials (soda lime glass, silica sand, calcium, oxide, soda and magnesium) are properly weighted and mixed and then introduced into a furnace where they are melted at 1500° C.
The molten glass then flows from the glass furnace onto a bath of molten tin in a continuous ribbon.
The glass, which is highly viscous, and the tin, which is very fluid, do notmix so that the contact surface between these two materials is perfectly flat.
When leaving the bath of molten tin the glass has cooled down sufficiently to pass to an annealing chamber called a lehr.
Here it is cooled under controlled temperatures, until it is essentially at room temperature.
|
|
แผ่นกระจกจะค่อยๆเย็นตัวลงขณะที่เคลื่อนตัวผ่านอ่างดีบุกเหลว และเมื่อกระจกแข็งตัวจะถูกนำไปผ่านเตา annealing ซึ่งเรียกว่า lehr และปล่อยให้กระจกค่อยๆเย็นลงจะได้แผ่นกระจกคุณภาพสูง ผิวเรียบสนิท
|
G |
และด้วยเทคโนโลยี่ปัจจบัน การผลิตกระจกด้วยระบบโฟล้ต สามารถผลิตแผ่นกระจกที่มีความหนาตั้งแต่ 0.3 มม. ถึง 25 มม. |
ในส่วนของอุตสาหกรรมกระจกตกแต่ง และกระจกแปรรูปในเมืองไทย จะใช้ขนาดความหนาตั้งแต่ 2 มม. ถึง 19 มม. โดยจะมีความหนาตามนี้
2mm 8mm
3mm 10mm
4mm 12mm
5mm 15mm
6mm 19mm (22mm,25mm)
|
G |
กระจกโฟล้ต ที่ตัดตามขนาดเรียบร้อยแล้ว รอการขนส่งไปแปรรูป
เพื่อใช้งานตามจุดประสงค์ เช่น ส่งไปยังโรงงานที่แปรรูปกระจก นำไปแปรรูป
เป็น กระจกนิรภัยเทมเปอร์ กระจกลามิเนต กระจกเงา กระจกเคลือบสี
หรือ กระจกตกแต่ง ต่างๆ เป็นต้น
|
ผลิตภัณฑ์กระจกตกแต่งอื่นๆ ของ บริษัท ดีดีเอสวี คอนเซ็ปท์ จำกัด